รีวิวหนัง Guardians of the Galaxy Vol. 3


หากเป็นเวลาหกปีแล้วที่ Guardians of the Galaxy Vol. 2 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ใน

ปี 2560 ก็ยากที่จะเชื่อ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel Studios และเป็นหน

ทางที่ยาวไกลจากภาคต่ออื่น ๆ (ถ้านับรวมกับเฟส 2 นี่อยู่ในเฟส 3) คริสต์มาสที่แล้วถือว่าดี

ถ้าไม่นับฝูงชนที่ช่วยทีมอเวนเจอร์สใน "Avengers Infinity War" (2018) มีเพียง

"ผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลกาแล็กซี่ฮอลิเดย์" Special' (2022) น่ารักและอุ่นเครื่องก่อนพบกับ

หนังเรื่องนี้ถ้าใครยังจำได้ว่าก่อนที่มันจะกลายมาเป็นสิ่งที่เรา

เห็น "Guardians of the Galaxy 3"

นั้นนอกจากเวลาจะเละเทะแล้ว เพราะ James Gunn ผู้กำกับและเขียนบทของซีรีส์

มีการทวีตตลก จนดิสนีย์ซึ่งรักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้ ถึงกับต้องไล่ออก แม้ว่าภาคต่อทั้งสอง

จะทำเงินได้มหาศาลก็ตาม แต่สุดท้ายด้วยแรงสนับสนุนจากผู้ชมและทีมนักแสดง ผมจึง

ได้รับโอกาสอีกครั้งในการกลับมาทำตามความฝันอีกครั้งกับหนังเรื่องนี้ แต่คุณยังต้องเลื่อน

ออกไป เพราะในขณะเดียวกัน กันน์ก็ได้แตกแขนงออกไปในจักรวาลดีซี กำกับภาพยนตร์

เรื่อง Suicide Squad (2021) และซีรีส์ทีวีเรื่อง Peacemakers (2022) จนกระทั่งเขาได้

เป็นผู้บริหารร่วมของ DC Studios


สำหรับเรื่องย่อ ตัวหนังดูเหมือนเป็นภาคต่อของ "Guardians of the Galaxy Holiday Special" เนื่องจาก

มีการกล่าวถึงบางจุดในภาพยนตร์ ถ้ามีคนดูก็จะเข้าใจและอินมากขึ้น ในภาคนี้ หัวหน้าแก๊ง

ปีเตอร์ ควิลล์/สตาร์-ลอร์ด (คริส แพรตต์) ยังคงกังวลใจกับการสูญเสียกาโมรา

(โซอี้ ซัลดาเนีย) ในเหตุการณ์ ไม่เป็นเช่นนั้นใน Avengers Infinity War (2018) แม้ว่า

กาโมร่าจะกลับมาพบเขาก็คงจริง แต่เธอคือ Gamora จากไทม์ไลน์อื่น และเธอจำอะไร

ไม่ได้เลย เข้าร่วมแก๊ง Raveners และ Starcar (Sylvester Stallone) 'ความรู้' ของทั้งสอง

ก็ออกมายุ่งเหยิงอีกครั้งนักวิทยาศาสตร์ผู้ชั่วร้ายที่คิดค้นเทคโนโลยีการดัดแปลงสัตว์ให้มีความฉลาดเหมือนมนุษย์

หวังที่จะสร้างสังคมใหม่ในอาณานิคม เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ในระหว่างการต่อสู้ร็อกเก็ตได้รับบาดเจ็บสาหัส ร้อนถึงผองเพื่อนแก๊งการ์เดี้ยน คราวนี้ก็ต้องกลับไปสู่รากเหง้า

และ ต้นกำเนิดของจรวดเพื่อหาทางทำให้ร็อกเก็ตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม Rocket เป็นตัวละครที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมา กันน์ต้องการให้ร็อคเก็ต

เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในฉบับนี้ มันเหมือนกับการเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ร้ายมารวมตัว

กันเพื่อก่อตั้งแก๊งการ์เดี้ยนที่เป็นหนึ่งเดียว รวมถึงที่มาของความอัจฉริยะของเจ้าแรคคูน

ปากดีตัวนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้สลับกับเหตุการณ์ที่ร็อคเก็ตอยู่ในอาการโคม่าบนเรือ

ภาพเหตุการณ์ในอดีตตัดไปที่เหตุการณ์ในวัยเด็กของเขา เมื่อ ร็อคเก็ต เป็นเพียงแรคคูน

เด็กน้อยที่ถูกจับไปทดสอบอยู่ที่นั่นซึ่งเขาได้พบกับเพื่อน ๆ และต่อมาก็กลายเป็นสัตว์

ทดลองของเพื่อน ๆ และเรื่องราวในอดีตก็ค่อย ๆ คลี่คลายความลึกลับของต้นกำเนิดของเขา

และนั่นคือสาเหตุที่แก๊งโทรลล์บินข้ามจักรวาลเพื่อบุก หาทางช่วยร็อกเก็ต ขณะเดียวกัน

เขาต้องหลบหนีเวทอดัมซึ่งตามหาร็อกเก็ตเช่นกัน


แน่นอนว่าเช่นเดียวกับหลาย ๆ คน ผู้เขียนกังวลว่าเมื่อเห็นโปสเตอร์ที่มีฟีเจอร์ Rocket

มากมาย เห็นตัวละครอย่างสตาร์ลอร์ดร้องไห้ในตัวอย่าง มันน่าลุ้นและเครียดมากกว่าว่าจะ

มีใครดึงหรือไม่ เมื่อเป็นส่วนสุดท้าย การเขียนบทให้ใครสักคนเดินหน้าต่อไปจะเป็น

ประโยชน์มากกว่า นี่อาจทำให้ Guardians of the Galaxy มีแนวทางหลักที่สอดคล้องกัน

การหลอกล่อ การรั่วไหล ความสับสนอลหม่านที่ไม่มีที่สิ้นสุด ก๊วนน่ารักจะพังทุกแนว

ดราม่าตับแตก จนภาพเต็มออกมาแค่ดราม่าน้ำตาแตก เน้นฉากโหด ทรมานเด็ก คนรักสัตว์

และร็อกเก็ต

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวหนัง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้